JSON (JavaScript Object Notation) รูปแบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ โดยลักษณะของ JSON จะอยู่ในรูปแบบข้อความธรรมดา ที่มีโครงสร้างอย่าง key กับ value
{
"key":"value"
}
ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มนุษย์และคอมพิวเตอร์สามารถอ่านเข้าใจได้ ปัจจุบันนิยมใช้กันอย่าแพร่หลาย โดยเป็นรูปแบบการส่งข้อมูลทางเลือกนอกเหนือไปจาก XML ซึ่งนิยมใช้กันแต่เดิม และทำไม JSON ถึงนิยมใช้มากกว่า XML กันนะ….ก็เพราะว่า JSON นั้นเขียนได้กระชับและเข้าใจง่ายกว่า XML
เปรียบเทียบ JSON กับ XML
JSON Format
{
"pet": [
{
"id": "1",
"name": "Meow",
"type": "cat"
},
{
"id": "2",
"name": "lucky",
"type": "dog"
}
]
}
XML Format
<?xml version="1.0" encoding="UTF-8"?>
<root>
<pets>
<element>
<id>1</id>
<name>Meow</name>
<type>cat</type>
</element>
<element>
<id>2</id>
<name>lucky</name>
<type>dog</type>
</element>
</pets>
</root>
จากภาพเห็นความแตกต่างในการเขียนระหว่าง JSON กับ XML ไปแล้ว เรามาดูกันว่าการเก็บข้อมูลแบบ JSON นั้นมีกี่ประเภท
- Number: ตัวเลขเท่านั้น
- String: Unicode ใช้เครื่องหมาย double-quote (“) เป็นตัวบ่งบอก และสามารถใช้ backslash syntax ได้
- Boolean: True or False
- Array: ชุดข้อมูล ซึ่งจะเป็นชนิดใดก็ได้ ใช้สัญลักษณ์ square bracket [item1,item2] เป็นตัวแสดง และคั่นด้วย comma แต่ละค่าใน array
- Object: ชุดข้อมูลที่เป็นคู่ Key-Value แบบ strings ใช้สัญลักษณ์ปีกกา {key1:value1,key2:value2} ใช้ comma เป็นตัวแบ่งแต่ละคู่ และใช้ colon เป็นตัวแบ่งระหว่าง key และ value
- Null: ค่าว่าง
{
"Number": 4,
"String": "ECU-SHOP",
"Boolean": true,
"Array": [
0,
3,
5,
4,
8,
9
],
"Object": {
"name": "Meow",
"type": "cat"
},
"NULL": null
}
ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่า JSON คืออะไร ตอนหน้า เราจะมาทดลองการส่งAPI ด้วย JSON กันครับ
เขียนบทความโดย ณัฐพล สุตา